๑. ด้านกัมพูชา
งานสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา
ดำเนินการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา ในพื้นที่ตอนที่ ๕ (หลักเขตแดนที่ ๑ – ๒๓) ในเขต จ.ศรีสะเกษ
และ จ.สุรินทร์ ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อสำรวจค้นหาสภาพและที่ตั้งของหลักเขตแดนไทย – กัมพูชา โดยมีผลการปฏิบัติงาน ในเดือน มิ.ย.๕๕
๑.๑ ปฏิบัติงานสำรวจค้นหาสภาพและที่ตั้งหลักเขตแดนไทย – กัมพูชา
สรุปได้ดังนี้
๑.๑.๑ สำรวจลักษณะภูมิประเทศและค้นหาหมายพยานที่มีลักษณะสอดคล้องตามบันทึกวาจา
แสดงที่ตั้งหลักเขตแดนที่ ๒๒ บี และ ๒๒ ที่จัดทำขึ้นในปี ค.ศ.๑๙๐๙ และ ค.ศ.๑๙๑๙
๑.๑.๒ ขยายโครงข่ายหมุดหลักฐานทางราบ ด้วยการรังวัดสัญญาณดาวเทียม GPS อยู่ในฝั่งไทย ๑ หมุด
บริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านโคกสูง ต.บักได อ.พนมดงรักจ.สุรินทร์ และอยู่ในฝั่งกัมพูชา ๑ หมุด บริเวณบ้านกู้ ต.โคกมอญ อ.บันเตียอำปึล
จ.อุดรธานี เพื่อใช้ในการสำรวจที่ตั้งหลักเขตแดนที่ ๒๒ บี และ ๒๒
๑.๑.๓ จัดทำเอกสารรายงานการสำรวจประจำวัน
๑.๒ ดำเนินการปฏิบัติการจิตวิทยา ประชาสัมพันธ์ และช่วยเหลือประชาชน ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา สรุปได้ดังนี้
๑.๒.๑ ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม ทาสี และติดตั้งระบบไฟฟ้าศาลาเอนกประสงค์หมู่บ้านคลองน้ำซับ
ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และปรับปรุงซ่อมแซม ทาสี ติดตั้งระบบไฟฟ้า ปูพื้นกระเบื้อง และต่อท่อประปาห้องน้ำ
ของศาลาเอนกประสงค์หมู่บ้านหนองตาเลิ๊บ ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
๑.๒.๒ ได้จัดกิจกรรมการบรรยายข้อมูลและแจกแผ่นพับเกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา
และความรู้เกี่ยวกับแนวเขตแดนไทย – กัมพูชา ที่หมู่บ้านหนองตาเลิ๊บ ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม ประมาณ ๑๘๐ คน โดยได้รับความร่วมมือ และตั้งใจเข้าร่วมกิจกรรมอย่างดีมาก
นอกจากนี้ ยังได้มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนบ้านรุน ซึ่งเป็นโรงเรียนแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จัดกิจกรรม รวมทั้งได้มอบ
เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่ม ของใช้ในครัวเรือน และยารักษาโรค ให้กับประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วย
๑.๒.๓ ปัญหาอุปสรรค พื้นที่ปฏิบัติงานฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชา มีที่ตั้งของฐานทหารทั้งสองฝ่าย จึงมีข้อจำกัด
ในการเข้าสำรวจพื้นที่ได้ไม่ทั่วถึง รวมทั้งยังมีอันตรายจากทุ่นระเบิดที่วางไว้เดิมในอดีต จึงมีความจำเป็นต้องตรวจค้นและเก็บกู้
ทุ่นระเบิดให้ปลอดภัยก่อนที่จะปฏิบัติงานสำรวจ
สรุป ผลการปฏิบัติงาน (พ.ค. – มิ.ย.๕๕) คิดเป็น ร้อยละ ๔ ของการดำเนินงานทั้งหมด